รีวิว The Conjuring 3 ไม่ได้เน้นสยอง แต่เน้นสืบสวน แต่ก็ยังลุ้นใจหายใจคว่ำ

The Conjuring 3: The Devil Made Me Do It เป็นการกลับมาของหนังหลักในจักรวาลสยองที่มีตัวละครดำเนินเรื่องคือเอ็ด ลอร์เรน วอร์เรน สามีภรรยานักปีศาจวิทยาที่มีตัวตนอยู่จริง โดยในภาคนี้ไม่ได้กำกับผ่านฝีมือของเจมส์ วาน แต่กำกับโดย ไมเคิล ชาเวส ที่เคยสร้างความสะพรึง ใน The Curse of La Llorona เรื่องราวของภาคนี้หยิบเอาเคสสยองจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของอเมริกา โดยเป็นคดีของนายอาร์น จอห์นสัน ก่อเหตุแทงคนตาย แต่เขากลับให้การในชั้นศาลว่า เขาไม่ได้เป็นคนทำและปีศาจเป็นผู้สั่งให้เขาทำ ซึ่งการไต่สวนนี้ เอ็ด ลอร์เรน วอร์เรน ได้เข้ามามีส่วนช่วยในคดีด้วย

The Conjuring 3: The Devil Made Me Do It เล่าถึงจุดกำเนิดก่อนที่นายอาร์น จอห์นสัน จะก่อคดีสุดสะพรึง เขาเป็นวัยรุ่นชายธรรมดาขยันขันแข็งและกำลังมีความรัก ซึ่งเขาได้เข้าไปพัวพันพิธีกรรมไล่ปีศาจที่สิงสูร่างของเดวิด น้องชายแฟนของเขา จากนั้นปีศาจได้หันเข้ามาสิงสู่ตัวเขาแทนและทำให้เป็นเหตุนำไปสู่การลงมือก่อเหตุอันน่าสะพรึงนี้
โดย เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงสืบสวน หาหลักฐานพร้อมทั้งช่วยแก้ไขความสยองที่เกิดขึ้นนี้

ความสยองของ The Conjuring 3: The Devil Made Me Do It คือการสร้างบรรยากาศน่าสะพรึง ชวนลุ้นระทึกและตกใจเหมือนอย่างที่เคยทำมาในหนังก่อนหน้านี้ แต่เรื่องนี้เหล่าผีและปีศาจจะไม่ได้แค่มาปรากฎตัวอย่างเดียว มันสามารถทำเรื่องที่ไม่คาดคิดได้ด้วย หนังพาเราผสมไปกับไอเดียความเป็นหนังสืบสวน เสาะหาจาก 0 ไปจนถึง 10 ค่อยๆคลายปม ปะติดปะต่อ จนกลายเป็นภาพใหญ่ มีการเปิดตัวตัวละครและปมใหม่ๆ มันจึงฉีกแนวจากเดิมที่คอนเจอริ่งจะเป็นเรื่องสยองขวัญเพียงอย่างเดียว

แต่อย่างไรก็ตามหนังยังคงทำเราลุ้นเกร็งติดเบาะโรงหนังได้ตลอดทั้งเรื่องเหมือนเดิม ไม่เพียงเท่านั้น มันยังซ่อน Easter Egg สำคัญไว้อีกหลายจุดเพื่อเชื่อมโยงกลับไปยังหนังสองภาคแรก และหนังในจักรวาลเรื่องอื่นๆ ซึ่งทำให้แฟนพันธุ์แท้ของจักรวาลหนังสยองขวัญจะต้องชอบและดูสนุกขึ้นมากไปด้วย

Comments

comments